Remote-friendly และ Remote-first ต่างกันยังไง?
Remote-friendly:
ข้อดีของ Remote-friendly
-
การทำงานมีความยืดหยุ่น -
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (เพิ่มสมาธิและความจดจ่อในการทำงาน) -
ช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์กร -
ลดเวลาการเดินทาง เพิ่มเวลาการทำงาน -
เครื่องมือในการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Cloud หรือ ออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต
ข้อเสียของ Remote-friendly
-
เนื่องจากทำงานคนละที่กับเพื่อนร่วมงานอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารหรือเกิดความล่าช้าในการติดต่อ -
สื่อสารกันในทีมและระหว่างทีมน้อยลง -
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอาจลดลง -
อาจโดนดึงความสนใจได้ง่าย -
มีโอกาสที่ข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหลได้ง่าย
Remote-first
ข้อดีของ Remote-first
-
พนักงานมี Work Life Balance -
กำหนดเวลาการทำงานที่เหมาะสมกับตัวเองได้ -
สามารถทำงานได้ในทุกสถานที่ที่มีอินเทอร์เน็ต -
การทำงานแบบ Remote-first บังคับให้พนักงานต้องพึ่งพาการเขียนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เอกสาร รายงาน หรือข้อความในแชท การเขียนที่ชัดเจนและละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารข้อมูล ความคิด และการสั่งงาน -
ใช้เวลาในการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพ -
มีติดตามความคืบหน้าของงานได้ทันที แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว -
มีการตั้งเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน
ข้อเสียของ Remote-first
-
ยากต่อการบริหารบุคคล -
เนื่องจากทำงานคนละที่กับเพื่อนร่วมงานอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารหรือเกิดการล่าช้าในการติดต่อ -
สื่อสารกันในทีมและระหว่างทีมน้อยลง -
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอาจจะลดลง -
มีโอกาสที่ข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหลได้ง่าย
สรุป